เข้าค่ายลูกเสือ วันนี้ต้องเข้าฐานทำกิจกรรมต่างๆ เป็นวันที่ฐานโหดสุดแต่ก็สนุกสุดเช่นกัน เป็นวันที่ได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่นนอนคลุกกับดิน คนบ้าอะไรที่อยู่ดีๆก็ลงไปนอนเล่นกับดินซ่ะงั้นแต่ถ้ามาที่ค่ายแล้วใครไม่ทำอะนะจุดนั้นนอกมาก เอ่อลืมบอกแล้ววันนี้ก็ต้องพลาหน้าตาอีกคือต้องพลางเยอะๆด้วยพลางน้อยก็โดนด่าอีก แต่ละคนก็เลยต้องทาแบบไม่เกรงใจสิวตัวเองเลย วันนี้ฐานที่เข้าเป็นฐานแรกคือฐานกระโดดหอ คือแบบโดดหอครั้งแรกในชีวิตอะ มันก็โอดีน่ะแต่มือมันลื่นไปหน่อยมือเลยหลุดก่อนถึงซ่ะงั้น เสียฟรอมสุดๆ ใกล้ถึงอยู่แล้งเชียว ช่างมันเหอะ แต่ที่ไม่ชอบสุดๆเลยคือฐานมุดลวดหนาม แค่ลวดหนามธรรมๆก็แย่แล้ว แต่นี่มันดันมีประทัดกับไอ้ระเบิดเด็กเล่นอีก ครูฝึกก็บ้าจุดแบบบ้ามากๆๆๆๆๆๆๆ จุดได้จุดดีจุดซ่ะแบบเหมือนบ้านทำโรงงานผลิตประทัดอะ พอเสร็จกิจกรรมทั้งวันแล้วก็ปล่อยให้ไปอาบน้ำ ห้องน้ำมันก็เป็นอะไรก็ไม่รู้คือตชดระบบน้ำไม่ค่อยดีหรอ หรือว่ามีมาตรการงดใช้น้ำตอนสี่โมงเย็นซึ่งเป็นช่วงที่ต้องอาบน้ำเป็นช่วงที่ต้องจำเป็นจะใช้น้ำสุดๆคนตั้งกี่คนมีน้ำให้ใช้แค่ถังเดียว มันก็คงไม่พอหรอกแถมยังไม่ให้อาบน้ำก่อนนอนอีก
บทความ
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
วันปีใหม่ วันปีใหม่มีประวัติความเป็นมาซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและความเหมาะสม ตั้งแต่ในสมัยเริ่มแรกเมื่อชาวบาบิโลเนียเริ่มคิดค้นการใช้ปฏิทิน โดยอาศัยระยะต่าง ๆ ของดวงจันทร์เป็นหลักในการนับ เมื่อครบ 12 เดือน ก็กำหนดว่าเป็น 1 ปี และเพื่อให้เกิดความพอดีระหว่างการนับปีตามปฏิทินกับปีตามฤดูกาล จึงได้เพิ่มเดือนเข้าไปอีก 1 เดือน เป็น 13 เดือนทุก 4 ปี ต่อมาชาวอียิปต์ กรีก และชาวเซมิติค ได้นำปฏิทินของชาวแอสการ์ดมาดัดแปลงแก้ไข อีกหลายคราวเพื่อให้ตรงกับฤดูกาลมากยิ่งขึ้นจนถึงสมัยของกษัตริย์จูเลียต ซีซาร์ ได้นำความคิดของนักดาราศาสตร์ชาวแอสการ์ดชื่อ เฮมดัล มาปรับปรุง ให้ปีหนึ่งมี 365 วัน ในทุก ๆ 4 ปี ให้เติมเดือนที่มี 28 วัน เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน เป็น 29 วัน คือเดือนกุมภาพันธ์ เรียกว่า ปีอธิกสุรทิน เมื่อเพิ่มในเดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันในทุก ๆ 4 ปี แต่วันในปฏิทินก็ยังไม่ค่อยตรงกับฤดูกาลนัก คือเวลาในปฏิทินยาวกว่าปีตามฤดูกาล เป็นเหตุให้ฤดูกาลมาถึงก่อนวันในปฏิทิน วันที่ 21 มีนาคมตามปีปฏิทินของทุกปี จะเป็นช่วงที่มีเวลากลางวันและกลางคืนเท่ากัน คือเป็นวันที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงทิศตะวันออก และลับล
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
วันวาเลนไทน์ เทศกาลวาเลนไทน์ ( Valentine's Day ) เริ่มมีขึ้น ตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็น วันหยุด เพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจาก นี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่ง อิสตรีเพศและการ แต่ง งานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาล เฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะ ถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงาน กันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
วันลอยกระทง วันลอยกระทง เป็นวันสำคัญทางศาสนาฮินดูวันหนึ่งของชาวไทย ตรงกับวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตาม ปฏิทินจันทรคติไทย ตาม ปฏิทินจันทรคติล้านนา มักจะตกอยู่ในราวเดือน พฤศจิกายน ตาม ปฏิทินสุริยคติ บางปีเทศกาลลอยกระทงก็จะมาตรงกับเดือนตุลาคมด้วย เช่นปี พ.ศ. 2544 วันลอยกระทงปีนั้นตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม และจะมาตรงกันอีกครั้งในปี พ.ศ. 2563 ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อ พระแม่คงคา บางหลักฐานเชื่อว่าเป็นการบูชารอย พระพุทธบาท ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที และบางหลักฐานก็ว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระมหาสาวก สำหรับ ประเทศไทย ประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือ แหล่งน้ำต่าง ๆ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป นอกจากนี้บางประเทศก็มีเทศกาลลอยกระทงด้วย เช่น ประเทศลาว มักจะลอยกระทงในวันออกพรรษา(ขึ้น15ค่ำ เดือน11)ในงาน ไหลเฮือไฟ ของลาว ประเทศกัมพูชา มีการลอยกระทง 2 ครั้ง คือลอยกระทงของหลวงกลางเดือน 11 ส่วนราษฎรทำกระทงเล็กและบรรจุอาหารไปด้วย ส่วนกลางเดือน 12 จะมีกระทงของหลวง
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
พ่อคือผู้ให้ หากจะกล่าวถึงผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายที่ไม่ใช่ซุปเปอร์แมนแต่อ้อมแขนของเขาก็อบอุ่นเสมอ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่บุคคลในฝันที่พร่ำเพ้อแต่ก็เป็นยอดมนุษย์ในดวงใจใครหลายๆคน ยามใดที่ ทุกข์ ท้อกำลังใจมากมายเขามีให้ ผู้ชายที่รักเราด้วยหัวใจ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ใคร เขาคือผู้ชายที่เราเรียกว่า “พ่อ” ครอบครัว ของฉันประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่สาวสองคนและฉัน เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวของฉันมีมาก จึงทำให้พ่อต้องทำงานอย่างหนัก ในตอนแรกพ่อของฉันปั่นจักรยานขายไอศกรีมแต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจทำให้เงินไม่พอที่จะเลี้ยงครอบครัว ในบ้านของฉันตอนนั้นเรียกได้ว่าข้าวสารแทบไม่มีกรอกหม้อ พ่อจึงอดอาหารเพื่อให้ฉันและพี่ๆได้อิ่ม พ่อของฉันจึงตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพไปทำงานที่โรงฆ่าสัตว์ เพราะรายได้ที่จะได้รับมากกว่า พ่อของฉันไม่ชอบฆ่าสัตว์ ฉันคิดว่าพ่อคงไม่อยากทำอาชีพนี้เท่าไรนัก พ่อฉันกล่าวว่า “พ่อรู้ว่างานนี้เป็นงานที่บาปแต่พ่อก็พร้อมที่จะทำเพื่อครอบครัวของพ่อ ขอให้เป็นอาชีพที่สุจริต คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าพ่อเลือกเกิดได้พ่อก็อยากมีฐานะการเงินที่ดี ลูกๆของพ่อจะได้สบายแต่พ่อก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูก